สุสานเนอร์วาน่าเมมโมเรียลปาร์คบ้านบึงชลบุรี

ความเชื่อเรื่องการเก็บอัฐิ
การเก็บอัฐิหลังจากการเผาศพเป็นพิธีกรรมที่มีความสำคัญในหลายวัฒนธรรมและศาสนา โดยมีความเชื่อและวิธีการที่แตกต่างกันไปตามแต่ละศาสนาและวัฒนธรรม การเลือกซื้อช่องเก็บอัฐิจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและพิจารณาอย่างรอบคอบ

ประวัติและความเป็นมา
พิธีเก็บอัฐิในประเทศไทยมีประวัติยาวนานกว่า 2,500 ปี โดยมีความเชื่อว่าการเก็บอัฐิจะช่วยส่งดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่สวรรค์ ในอดีต การเก็บอัฐิจะทำหลังจากการเผาศพและนำกระดูกไปเก็บไว้ในภาชนะที่เตรียมไว้ เช่น โกศหรือโถใส่กระดูก

ความสำคัญของการเก็บอัฐิในแต่ละศาสนา
ศาสนาพุทธ: การเก็บอัฐิเป็นการแสดงความเคารพและระลึกถึงผู้ล่วงลับ โดยมักจะเก็บอัฐิไว้ในวัดหรือเจดีย์ เพื่อให้ลูกหลานได้มาสักการะและทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตาย
ศาสนาคริสต์: ในศาสนาคริสต์ การเก็บอัฐิมักจะทำในสุสานหรือโบสถ์ โดยมีความเชื่อว่าการเก็บอัฐิในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จะช่วยให้วิญญาณของผู้ตายได้รับการปกป้องและสงบสุข
ศาสนาอิสลาม: ในศาสนาอิสลาม การเผาศพและการเก็บอัฐิไม่เป็นที่ยอมรับ เนื่องจากมีความเชื่อว่าร่างกายของผู้ตายควรถูกฝังในสุสานทันทีหลังจากการเสียชีวิต
วัฒนธรรมจีน: คนจีนมักจะฝังศพแทนการเผา เนื่องจากเชื่อว่าการฝังศพจะช่วยให้ลูกหลานมีความเจริญรุ่งเรืองและได้รับพลังจากบรรพบุรุษ
การเลือกซื้อช่องเก็บอัฐิ
การเลือกซื้อช่องเก็บอัฐิเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น สถานที่ตั้ง ความสะดวกในการเดินทางไปสักการะ ความเหมาะสมของขนาดและรูปแบบของช่องเก็บอัฐิ รวมถึงความเชื่อและประเพณีของครอบครัว

สรุป
การเก็บอัฐิเป็นพิธีกรรมที่มีความสำคัญและมีความหมายลึกซึ้งในหลายวัฒนธรรมและศาสนา การเลือกซื้อช่องเก็บอัฐิจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การเก็บอัฐิเป็นไปตามความเชื่อและประเพณีของครอบครัว